จากรายงานผลสำรวจ EY 2024 Institutional Investor Survey ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นปีที่ 11 ได้รวบรวมมุมมองของผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่า ผู้ลงทุนกว่า 55% เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์การลงทุนในช่วง 2 ปีข้างหน้า และ 62% ระบุว่า ได้เตรียมความพร้อมในการประเมินข้อมูลเกี่ยวกับภูมิอากาศของบริษัทที่เข้าลงทุนไว้แล้ว
สถาบันไทยพัฒน์ ในฐานะผู้บุกเบิกการพัฒนาฐานข้อมูลความยั่งยืนของธุรกิจ และเป็นผู้ริเริ่มการจัดระดับ ESG Rating ขึ้นในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เห็นว่า ปัจจุบัน ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน นอกจากที่จะให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลด้าน ESG ของกิจการในกระบวนการพิจารณาตัดสินใจลงทุนแล้ว ยังมีความต้องการใช้ข้อมูลด้านภูมิอากาศที่กิจการมีการดำเนินการ อาทิ ข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป้าหมายการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระดับกิจการ ฯลฯ สำหรับประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย
ด้วยประสบการณ์กว่า 11 ปี ของสถาบันไทยพัฒน์ในการประเมินข้อมูลด้าน ESG ของกิจการ จึงได้ขยายผลมาสู่การประเมินข้อมูลคาร์บอนที่เชื่อมโยงกับตัวเลขทางการเงินของกิจการ ในรูปแบบของ Carbon Equity Ratings (CER) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
โดยสถาบันไทยพัฒน์ ได้จัดตั้งหน่วยงาน Carbon Ratings ขึ้นภายใต้ศูนย์อุณหภิบาล ในการทำหน้าที่ประมวลและสนับสนุนการพัฒนาข้อมูลบัญชีคาร์บอนของภาคธุรกิจ เพื่อการจัดระดับบริษัทจดทะเบียนด้านความสามารถทางภูมิอากาศ สำหรับผู้ลงทุนใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน ควบคู่กับข้อมูลทางการเงิน ให้สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน และผลักดันการกำกับดูแลกิจการด้านภูมิอากาศไปพร้อมกัน
บริษัทจดทะเบียนและกิจการที่ต้องการพัฒนาระดับการเปิดเผยข้อมูลบัญชีคาร์บอน หรือต้องการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับภูมิอากาศเพื่อการเผยแพร่ให้แก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เครื่องมือ Carbon Ratings สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ทางอีเมล info@thaipat.org ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
• | Carbon Ratings: ตัวช่วยการลงทุนที่ใส่ใจภูมิอากาศ |
• | เปิดตัว Carbon Ratings หนุนจัดระดับกิจการด้วยข้อมูลด้านภูมิอากาศ |
No comments:
Post a Comment