Thaipat Institute

GRI Certified Training Partner นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2556

รู้จัก    CG   ¦   ESG   ¦   CSR   ¦   CSV   ¦   SD   ¦   SE   ¦   SB

ESG Data Rendering

Home        Rendering        Tagging        Aligning        Services


การให้น้ำหนักข้อมูลที่สำคัญ (Rendering) จะใช้การวิเคราะห์สารัตถภาพ หรือความเป็นสาระสำคัญของสิ่งที่พิจารณา โดยองค์กรต้องสามารถจำแนกชุดข้อมูลความเสี่ยงและโอกาสเกี่ยวกับความยั่งยืนที่ส่งผลทางการเงินต่อกิจการ และชุดข้อมูลผลกระทบเกี่ยวกับความยั่งยืนที่เกิดจากการดำเนินงานของกิจการและส่งผลสู่ภายนอก

ในการเตรียมข้อมูล ESG องค์กรต้องสามารถแจกแจงให้ได้ว่า ประเด็นสาระสำคัญด้านความยั่งยืนของกิจการมีอะไรบ้าง และมีประเด็นใดที่มีนัยสำคัญ (เชิงการเงิน) ต่อผู้ใช้ข้อมูลที่เป็นกลุ่มผู้ลงทุน และประเด็นใดที่มีนัยสำคัญ (เชิงผลกระทบ) ต่อผู้ใช้ข้อมูลที่เป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง ซึ่งชุดข้อมูลเหล่านี้จะถูกเรียกว่า สาระสำคัญสองนัย (Double Materiality) หรือใช้อีกชื่อหนึ่งว่า “ทวิสารัตถภาพ”


หากกิจการเห็นว่ามีความเสี่ยงและโอกาสที่สามารถส่งผลทางการเงิน จะถือว่าข้อมูลนั้นมีสาระสำคัญที่ต้องเปิดเผย โดยความเสี่ยงและโอกาสที่สามารถส่งผลทางการเงินต่อกิจการ อาจเกิดขึ้นโดยความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เช่น จากคู่ค้าในห่วงโซ่คุณค่าทั้งฝั่งต้นน้ำและฝั่งปลายน้ำ ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนเห็นภาพรวมของปัจจัยความยั่งยืนอันส่งผลทางการเงิน (Financial Effect) ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ขณะที่ข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของกิจการ ทั้งจากสถานประกอบการที่กิจการเป็นเจ้าของหรือมีอำนาจควบคุม จากห่วงโซ่คุณค่าทั้งฝั่งต้นน้ำและฝั่งปลายน้ำ จากผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดถึงจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจ จะถือว่ามีสาระสำคัญ เมื่อพิจารณาจากเกณฑ์ความรุนแรง (Severity) ที่ส่งผลต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม โดยที่มีกิจการเป็นต้นเหตุ (Caused) มีส่วนสนับสนุน (Contribute) หรือเกี่ยวโยงโดยตรง (Directly linked)

ผลกระทบที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานของกิจการ ยังสามารถเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงและโอกาสของกิจการที่มีสาระสำคัญซึ่งสามารถส่งผลกระทบทางการเงินได้อีกทอดหนึ่ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น กิจการจะต้องเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงและโอกาสที่เกิดจากผลกระทบดังกล่าวเหล่านั้นด้วย

ทวิสารัตถภาพ เป็นหลักการที่ถูกบรรจุอยู่ในมาตรฐานระหว่างประเทศ อาทิ มาตรฐาน ESRS (European Sustainability Reporting Standards) ที่กำหนดให้กิจการซึ่งอยู่ในข่าย ต้องดำเนินการประเมินประเด็นที่เป็นสาระสำคัญทั้งนัยทางการเงินและนัยของผลกระทบ โดยไม่ต้องการให้จำกัดเฉพาะการประเมินสารัตถภาพที่คำนึงถึงแต่ตัวกิจการเพียงฝ่ายเดียว ทั้งนี้ เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งความยั่งยืนของกิจการผ่านทางตัวชี้วัดที่ส่งผลทางการเงิน และความยั่งยืนของส่วนรวมผ่านตัวชี้วัดที่ส่งผลกระทบสู่ภายนอก ควบคู่ไปพร้อมกัน

การที่องค์กรจำเป็นต้องจัดเตรียมข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญสองนัยนี้ เนื่องจาก หน่วยงานผู้ประเมินและจัดระดับ ESG ชั้นนำในระดับสากล (เช่น S&P Global) ได้หันมาใช้แนวทางการประเมินด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบทวิสารัตถภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว